หลังจากที่ประเทศไทยได้อนุญาตให้ปลูกกัญชาได้หลังจากมีนโยบายปลดล็อกกัญชาเสรี โดยสามารถปลูก แปรรูป ผสมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากและหลายคนกำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้ด้วยการปลูกกัญชาขาย
การปลูกกัญชาในบริเวณบ้านหรือพื้นที่ของตนเองนั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ถ้าหากต้องการปลูกกัญชาขายเพื่อสร้างรายได้นั้นจะต้องมีการขออนุญาตปลูกอย่างถูกต้อง จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย!
อยากปลูกกัญชาขายต้องทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่อยากปลูกกัญชาเพื่อใช้เองในครัวเรือน หรือปลูกเพื่อนำไปแปรรูปเป็นอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หรือค้าขายขนาดย่อมนั้นสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุญา แต่ผู้ที่ต้องการปลูกกัญชาจะต้องไม่เคยมีประวัติการถูกดำเนินคดีในฐานความผิดที่เกี่ยวข้อกับยาเสพติด โดยสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ‘ปลูกกัญ’ และจดแจ้งปลูกกัญชาตามวัตถุประสงค์หรือเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกกัญชาขายเป็นอาชีพนั้น จะต้องเป็นเพาะปลูกเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือศึกษาวิจัยและพัฒนาเท่านั้น โดยไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสันทนาการหรือการเสพและจะต้องมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ดังนี้
- หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง (ตามที่กฎหมายกำหนด)
- แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน และเภสัชกร
- มหาวิทยาลัยเอกชน ที่มีการเรียนการสอนแพทยศาสตร์หรือเภสัชศาสตร์
- วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจ เพื่อสังคมหรือสหกรณ์การเกษตร ร่วมกับหน่วยงานรัฐหรือ มหาวิทยาลัยเอกชน
ปลูกกัญชาขายต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
- ศึกษาสายพันธุ์กัญชา เนื่องจากกัญชามีหลากหลายสายพันธุ์และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ผู้ที่อยากปลูกกัญชาควรศึกษารายละเอียดสายพันธุ์ การนำไปใช้ประโยชน์และวิธีการเพาะปลูกที่ถูกต้อง
- ติดต่อผู้ซื้อ โดยทำสัญญาเป็นผู้ผลิตให้กับ หน่วยงานรัฐหรือมหาวิทยาลัยเอกชน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย
- จัดเตรียมการเพาะปลูกให้พร้อม ทั้งสถานที่ตั้ง แผนงาน และวิธีดำเนินการ หากทำในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน หน่วยงานที่ซื้อกัญชาจะต้องยื่นขออนุญาตปลูกกัญชาต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หากทำในรูปแบบสหกรณ์การเกษตรสหกรณ์จะต้องยื่นขออนุญาตปลูกกัญชาเอง
ข้อกำหนดในการปลูกกัญชา
การปลูกกัญชาเพื่อใช้ในการแพทย์จะมีความเข้มงวดตามมาตรฐานเมดิคัล เพื่อให้มีปริมาณสารสำคัญของกัญชาอยู่ในระดับคงที่และปลอดสารแปลกปลอม โดยการปลูกจะทำได้ 3 วิธี ได้แก่
- ปลูกในดิน
- ปลูกในน้ำ หรือไฮโดรโปนิก
- ปลูกแบบรากลอย
การขออนุญาตปลูกกัญชาต้องทำอย่างไร?
ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสามารถปลูกกัญชาได้ โดยจะต้องไปยื่นคำขออนุญาต ณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
สิ่งที่ต้องเตรียม
- หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองของสถานที่ปลูก หรือหนังสือให้ความยินยอมจากผู้ให้เช่าหรือผู้ให้ใช้ที่ดินที่ตั้งและที่อยู่ในการเพาะปลูกกัญชา โดยจะต้องเป็นการปลูกระบบปิด สถานที่ปลูกมีความมั่นคงแข็งแรง มีระบบและมาตรการรักษาความปลอดภัย
- สถานที่จัดเก็บ ทั้งในส่วนของเมล็ดพันธุ์ ผลผลิตจากกัญชาหลังการเก็บเกี่ยวและส่วนที่รอทำลาย โดยจะต้องมีการแยกพื้นที่จัดเก็บอย่างเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับวัตถุอื่นๆ
- แผนการดำเนินงาน ทั้งแผนการผลิต การจำหน่าย และการใช้ประโยชน์
- วิธีการดำเนินการ โดยระบุรายระเอียดของการดำเนินงานตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น ที่มา ของเมล็ดพันธุ์ วิธีการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ระยะเวลาเพาะปลูก เป็นต้น
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ของ ‘กองควบคุมวัตถุเสพติดกัญชา’
ดังนั้นผู้ที่ต้องการปลูกกัญชาจะต้องทำความเข้าใจและขออนุญาตปลูกให้ถูกต้อง หากปลูกกัญชาโดยไม่ได้ลงทะเบียนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท ถ้าเป็นปลูกเพื่อขายจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,500,000 บาท เพื่อให้สามารถปลูกกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่ให้มีปัญตามมาในภายหลัง
เมื่อขออนุญาตปลูกกัญชาอย่างถูกต้องแล้ว ผู้ที่ต้องการปลูกกัญชาขายเพื่อการพาณิชย์ควรเตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลความรู้ รวมถึงติดต่อผู้ซื้อให้เรียบร้อยและอย่าลืมให้ความสำคัญกับแหล่งเงินทุน เนื่องจากการทำการเกษตรจะมีค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงเพาะปลูก ค่าปุ๋ย หรืออุปกรณ์การเกษตรต่างๆ จึงควรหาแหล่งเงินทุนให้พร้อมก่อนการเพาะปลูก เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการทำการเกษตรโดยไม่ต้องกู้ยืม โดยสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคลได้ผ่าน Rabbit Care !